วันเสาร์ที่ 26 กันยายน พ.ศ. 2552

วิธีทำโยเกิร์ต

ส่วนที่จะให้แสดง ส่วนผสมสำหรับโยเกิร์ตประมาณ 500 ml.
1. นมสดพาสเจอร์ไรส์ หรือนม UHT เป็นแบบธรรมดา หรือพร่องไขมันก็ได้ 425 g. หรือ 2 ถ้วยตวง
2. นมผงแบบนมผงธรรมดาหรือนมผงขาดมันเนย 75 g. หรือ 5 ช้อนโต๊ะ
3. โยเกิร์ตถ้วยรสธรรมชาติ 75 g. หรือครึ่งถ้วยโยเกิร์ต


ส่วนที่เหลือ วิธีการทำ
1. ตุ๋นนมในหม้อตุ๋น หรือใช้หม้อสองใบซ้อนกัน ใบนอกใส่น้ำต้มให้น้ำเดือดและใบในใส่นม (เพื่อไม่ให้นมไหม้)
2. พอนมเริ่มอุ่น ละลายนมผงลงในน้ำนม
3. ให้ความร้อนกับน้ำนมที่อุณหภูมิ 95C เป็นเวลา 5 นาที ถ้าไม่มีที่สัดอุณหภูมิให้ดูลักษณะของน้ำนมที่ร้อนจนคล้ายนมใกล้เดือดแล้วจับเวลา
4. ยกลง ลดความร้อนของน้ำนมลงโดยใช้น้ำเย็นไหลผ่านด้านนอกของภาชนะที่ใช้ต้มนม หรือแช่ในน้ำแข็ง จนอุณหภูมิของนมอยู่ที่ประมาณ 45C หรืออุ่นพอที่จะทนได้เมื่อทดสอบโดยการหยดนมลงบนหลังมือ
5. เติมโยเกิร์ตรสธรรมชาติลงไปในน้ำนม คนเบา ๆ ให้เข้ากัน
6. ปิดฝา บ่มทิ้งไว้ที่อุณหภูมิ 43C เป็นเวลา 4-6 ชั่วโมง ถ้าไม่มีตู้บ่มสามารถใช้กล่องโฟมหรือกล่องที่สามารถเก็บความร้อนได้ใส่น้ำนมนั้นและบ่มเป็นเวลาประมาณ 6-8 ชั่วโมง หรือบ่มไว้ที่อุณหภูมิห้องประมาณ 8-10 ชั่วโมง จนกว่าจะได้เนื้อโยเกิร์ตที่เปรี้ยมตามที่ต้องการที่มา : โดย อาจารย์ พรหล้า ขาวเธียรภาควิชาเทคโนโลยีอุตสาหกรรมเกษตรสถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือ

Read More

หลวงพระบาง

ส่วนที่จะให้แสดง หลวงพระบาง หลวงพระบางในอดีต เคยเป็นศูนย์รวมจิตใจของชาวลาวมาช้านาน เนื่องจากเคยเป็นเมืองหลวงที่ประทับของเจ้ามหาชีวิตหลายพระองค์ ความรุ่งเรืองของศิลปวัฒนธรรมในอดีตยังคงปรากฏให้เห็นแม้ในช่วงเวลาปัจจุบัน กาลเวลาที่ผ่านไป ไม่ได้เปลี่ยนแปลงวิถีชีวิตของคนลาวที่นี่มากมายนัก ด้วยเคยเป็นพื้นที่ ที่เข้าถึงได้ยากมาก่อน คนลาวยังโอบอ้อมอารี สุภาพ นิ่มนวลและเป็นมิตร เสน่ห์ของเมืองที่ยากจะหาที่ไหนในโลกมาเทียบได้ หลวงพระบาง เป็นเมืองที่อุดมด้วยสถาปัตยกรรมอันวิจิตรของวัดวาอาราม บ้านเรือนเก่าแก่สไตล์โคโลเนียล สถาปัตยกรรมที่สวยงามมีเสน่ห์ของยุคอาณานิคม และการวางผังเมืองที่ฉลาด ซึ่งทำให้เมืองหลวงพระบางกลมกลืนเข้ากับสภาพภูมิประเทศที่ถูกห้อมล้อมด้วยขุนเขาโดยรอบ และการที่เมืองตั้งอยู่ริมสายน้ำโขงและสายน้ำคานที่ไหลมาบรรจบกัน ท่ามกลางทิวทัศน์อันงดงามของป่าเขา การเข้าถึงจากโลกภายนอกในอดีตจึงทำได้ไม่ง่ายนัก ชาวหลวงพระบางจึงยังคงสามารถดำรงขนบธรรมเนียมประเพณีที่เก่าแก่เอาไว้ ความเรียบง่ายของวิถีชีวิต รอยยิ้มที่เป็นมิตรของผู้คน ตลอดจนขนบธรรมเนียมประเพณีที่ไม่สูญหายไปตามกาลเวลา ยังเป็นสิ่งที่สัมผัสได้ที่เมืองเล็กๆแห่งนี้ อีกทั้ง หลวงพระบางยังเป็นเมืองที่มีชื่อเสียงมากในเรื่องของความสวยงามและจำนวนวัดเก่าแก่ที่มีอยู่มากมายมาตั้งแต่สมัยโบราณ รวมถึงการที่ผู้คนยังสามารถดำรงขนบประเพณีวัฒนธรรมอันงดงามไว้ได้เป็นอย่างดี สิ่งเหล่านี้เอง ทำให้หลวงพระบางยังเปี่ยมด้วยลมหายใจของเมืองมรดกโลกที่น่าหลงใหลสำหรับผู้มาเยือนเสมอ

ส่วนที่เหลือ หลวงพระบาง หรืออาณาจักรล้านช้างในอดีต ได้รับการแต่งตั้งจากยูเนสโก ให้เป็นเมืองมรดกโลก ด้วยเหตุผลคือมีวัดวาอารามเก่าแก่มากมาย และมีบ้านเรือนอันเป็นเอกลักษณ์โคโลเนียลสไตล์ ตัวเมืองตั้งอยู่ริมน้ำโขงและน้ำคาน ซึ่งไหลบรรจบกันท่ามกลางธรรมชาติอันงดงาม และ ชาวหลวงพระบางมีบุคลิกที่ยิ้มแย้มแจ่มใส เป็นมิตร มีขนบธรรมเนียมประเพณีที่งดงาม หลวงพระบาง จึงได้รับการยกย่องและขึ้นทะเบียนเป็นเมืองมรดกโลก จากองค์การยูเนสโกในเดือน ธันวาคม พ.ศ.2538
ประวัติหลวงพระบางในอดีตหลวงพระบางเคยเป็นเมืองหลวงเก่าของลาวมาก่อนกรุงเวียงจันทน์ ตั้งแต่เมื่อครั้งอาณาจักรล้านช้าง ประวัติศาสตร์ของลาว มีความเกี่ยวเนื่องมาตั้งแต่สมัยอาณาจักรหนองแส หรือน่านเจ้า (ตาลีฟู) ที่อยู่ในมณฑลหยุนหนานของจีน ขุนบรมราชาธิราช (พีล้อโก๊ะ) แห่งหนองแสมีโอรส 7 องค์ แยกย้ายไปครองเมืองต่างๆทั่วสุวรรณภูมิ ต่อมาโอรสองค์โตนาม ขุนลอ (โก๊ะล่อฝง) ได้เป็นกษัตริย์แล้วยกทัพมาตีเมืองชวาใน ค.ศ. 757 เปลี่ยนชื่อเมืองชวาเป็นนครเชียงทอง และมีกษัตริย์ครองเมืองเชียงทองสืบมาอีก 22 พระองค์ต่อมาในรัชสมัยของพระเจ้าฟ้างุ้ม พระองค์ได้รวบรวมแว่นแคว้นต่างๆของชนเผ่าไท-ลาวในเขตบริเวณลุ่มแม่น้ำโขง แม่น้ำคาน และแม่น้ำอู เพื่อก่อตั้งขึ้นเป็นอาณาจักรล้านช้างในระหว่าง ปี พ.ศ.1896-1916 ณ ดินแดนริมโขง ซึ่งปัจจุบันก็คือบริเวณหลวงพระบาง โดยความช่วยเหลือของกษัตริย์ขอม เนื่องจากมเหสีของเจ้าฟ้างุ้มคือ พระนางแก้วเก็งยา เป็นพระธิดาของกษัตริย์ขอมในขณะนั้น ดินแดนขอมในสมัยนั้น มีการรับนับถือศาสนาพุทธ และคติความเชื่อทางพุทธศาสนาเจริญรุ่งเรืองแล้ว ในขณะที่ลาวยังคงนับถือผีกันอยู่ ในรัชสมัยของพระเจ้าฟ้างุ้ม จึงมีการถ่ายทอดและรับเอาศาสนาพุทธเข้ามาแทนการนับถือผีเชื่อว่า เดิมทีเดียวอาณาจักรล้านช้างมีชื่อเรียกว่า “เมืองชวา” ด้วยมีชาวชวามาอาศัยอยู่มากกว่ากลุ่มอื่น แต่ใน ปี พ.ศ.1900 ได้เปลี่ยนชื่อมาเป็น “เมืองเชียงทอง” จนกระทั่งกษัตริย์ขอมได้พระราชทานพระพุทธรูปองค์หนึ่งชื่อ “พระบาง” ซึ่งเป็นพระพุทธรูปศิลปะสิงหล ให้กับอาณาจักรล้านช้าง เจ้าฟ้างุ้มจึงเปลี่ยนชื่อเมืองเป็น “หลวงพระบาง” ต่อมา ในปี พ.ศ.2088 พระเจ้าโพธิสารราชเจ้าได้โปรดให้ย้ายเมืองหลวงของอาณาจักรล้านช้างไปอยู่ที่เมืองเวียงจันทน์แทน หลวงพระบางจึงไม่ได้เป็นเมืองหลวงของลาวอีกต่อไป ในช่วงยุคสมัยต่อมา อาณาจักรล้านช้างได้แตกออกเป็น 3 อาณาจักร คือ อาณาจักรล้านช้างหลวงพระบาง อาณาจักรล้านช้างเวียงจันทน์ และอาณาจักรล้านช้างจำปาสัก กษัตริย์แห่งอาณาจักรล้านช้างยังคงสืบทอดราชบัลลังก์มาจนถึงยุคสิ้นสุดราชวงศ์ ซึ่งมีสาเหตุหลักมาจากการตกเป็นเมืองขึ้นของเมืองสยามในขณะนั้น รวมถึงประเทศเวียดนามและฝรั่งเศส
หลวงพระบาง จึงมีประวัติความเป็นมายาวนาน เป็นราชธานีเก่าแก่ มีวัดวาอารามมากมาย มีบ้านเรือนเก่าเป็นเอกลักษณ์ในรูปแบบโคโลเนียลสไตล์แบบตะวันตก ตัวเมืองตั้งอยู่ริมแม่น้ำโขงและแม่น้ำคาน ซึ่งไหลมาบรรจบกัน และโอบกอดให้ตัวเมืองอยู่ท่ามกลางธรรมชาติที่งดงาม อุดมสมบูรณ์ อีกทั้งชาวหลวงพระบางยังมีบุคลิกที่เป็นมิตร โอบอ้อมอารี ยิ้มแย้มแจ่มใส มีวิถีชีวิตและประเพณีที่งดงามและยังไม่สุญสลายไปตามกาลเวลา

Read More

ประวัติของตลาด 3 ชุก ( ตลาด 100 ปี )

ส่วนที่จะให้แสดง ตำนานสามชุก 100 ปี
ถ้าพูดถึงตลาดสมัยนี้ หลาต่อหลายที่มักนิยมสร้างเป็นตึกอาคาร หรือบางที่ก๊ติดแอร์หรูหรา
ภาพตลาดที่เป็นห้องแถวไม้ริมน้ำ อย่างเช่น สมัยปู่ย่าตายายเราคงเหลืออยู่ไม่กี่ที่ ถึงแม้ว่าความเจริญ
ในปัจจุบันจะทำให้ตลาดหลายต่อหลายที่เปลี่ยนแปลง แต่เราก๊ยังสามารถชมตลาดเก่า ๆ ที่เป็นห้องแถวไม้ 2
ชั้นได้ โดยเฉพาะตามต่างจังหวัด อย่างเช่น " ตลาด 100 ปี สามชุก " อ. สามชุก จ. สุพรรณบุรี

ส่วนที่เหลือ สามชุก เป็นตลาดห้องแถวไม้ 2 ชั้นขนาดใหญ่ ตั้งอยู่ริมแม่น้ำสุพรรณบุรี ( ท่าจีน ) และรายล้อมด้วยบรรยากาศ
บ้านเรือนรวมถึงเรื่องราวของผู้คนในอดีต โดยแทปจะไม่มีการดัดแปลงเสริมแต่ง ย้อนอดีตกลับไปยุคสมัยที่
ตลาด สามชุกเฟื่องฟู ยุดนั้นชาวบ้านจะนำของพื้อนเมือง รวทั้ง เกลือ ฝ้าย แร่ สมุนไพร มาแลกเปลี่ยนซื้อขาย
ให้กับพ่อค้าที่เป็นชาวเรือ ค่อมาเมื่อริมแม่น้ำสุพรรณ กลายเป็นแหล่งทำนาที่สำคัญ มีโรงสีไฟขนาดใหญ่เกิดขึ้น
หลายแห่งตลาดสามชุกก็กลายเป็นตลาดข้าวที่สำคัญ มีการค้าขายกันอย่างคึกคัก โดยแต่ละปี มีการเก็บภาษีได้
จำนวนมาก พร้อม ๆ กับมีการตั้ง นายอากร คนแรก ชื่อ " ขุนจำนง จีนารักษ์ "

Read More

5 ขั้นตอน ง่ายๆ สู่ผิวสวยใส

ส่วนที่จะให้แสดง
1.ขัดผิว ควรใช้ผลิตภัณฑ์ขัดลอกที่อ่อนโยนต่อผิว ควรขัดลอกผิวอาทิตย์ละ 2 ครั้ง
2.เพิ่มความชุ่มชื้น ถ้าผิวแห้ง ควรทาด้วยมอยเจอร์ไรเซอร์ และใช้ครีมที่มีความมันมากในเวลากลางคืน ถ้าผิวมันควรทามอยเจอร์ไรเซอร์ 2-3 นาทีก่อนแต่งหน้า
ส่วนที่เหลือ
3.เอามือให้ห่างจากหน้า อย่าเอามือจับขนตา เท้าคาง เพราะอาจจะเพิ่มความสกปรกให้กับหน้าโดยไม่จำเป็น
4.ทำความสะอาดใบหน้า สำหรับคนที่แต่งหน้าเมื่อเสร็จจากงาน ควรล้างหน้าทันที
5.เมื่อเป็นสิว ถ้าคุณเป็นสิวมากแนะนำให้ไปหาแพทย์โรคผิวหนังโดยเฉพาะ อย่าจัดการปัญหาสิวด้วยตัวเองนะคะ

Read More

วิธีลดนำ้ำหนัก ''


ความอ้วน ทำให้มีความเสี่ยงมากขึ้น ดังนี้

- อายุขัยสั้นกว่าคนน้ำหนักปกติถึง 10% - 100%
- มีโอกาสเป็นเบาหวานมากกว่าคนปกติ 57 เท่า
- ความดันโลหิตสูงมากกว่าคนปกติ 3 เท่า
- นิ่วในถุงน้ำดี 2-3 เท่าของคนทั่วไป
- มีโอกาสเป็นโรคหัวใจ และโรคไตเพิ่มขึ้น
- โรคปอดเพิ่มขึ้น
- เวลาจะผ่าตัด ก็มีอัตราเสี่ยงสูง
- ปวดหัวเข่าเนื่องจากการรับน้ำหนัก
- ปวดข้อเท้าหรือปวดหลัง

เทคนิควิธีลดน้ำหนักแบบง่าย ๆ ด้วยตัวเอง

1. รับประทานอาหารให้ครบ 5 หมู่ แต่พยามยามลดอาหารประเภทแป้ง น้ำตาลและไขมัน และไม่ควรงดมื้อใดมื้อหนึ่ง เพราะอาจทำให้คุณรับประทานอาหารมื้อถัดไปมากขึ้น ที่สำคัญควรรับประทานประเภทผักใบเขียว เพราะจะมีใยอาหาร อยู่มาก

2. พยายามดื่มน้ำก่อนอาหาร เพื่อถ่วงกระเพาะอาหาร ซึ่งจะทำให้ทานอาหารได้น้อยลง หรือเลือกรับประทานใยอาหารก่อนอาหารประมาณครั้งชั่วโมงแทน

3. เพื่อผลทางจิตวิทยา ควรใช้ภาชนะเล็กลง โดยมีปริมาณอาหารเท่าเดิมเพื่อให้ดูว่ามีอาหารมากขึ้น และควรใช้ ช้อนขนาดเล็กเพื่อจะได้รับประทานช้าลง ที่สำคัญควรฝึกเคี้ยวช้า ๆ จะทำให้รับประทานอาหารได้น้อยลง และรู้สึกอิ่มได้เร็วขึ้น

4. หาเวลาออกกำลังกายที่เหมาะสมมากขึ้น มักมีความเชื่อผิด ๆ กันว่า การออกกำลังกายมากขึ้นจะทำให้หิวเร็ว และรับประทานอาหารมากขึ้น แต่ในความเป็นจริงแล้ว การที่ไม่ได้ออกกำลังกายจะทำให้รู้สึกเบื่อหน่าย จึงมักขจัด ความเบื่อนี้ด้วยการรับประทาน การออกกำลังกายจึงเป็นวิธีช่วยลดความเบื่อหน่าย และเพิ่มการใช้พลังงาน เพื่อเผาผลาญไขมันสะสมให้ลดน้อยลง

5. สร้างสิ่งจูงใจ หรือทัศนคติดี ๆ ต่อพฤติกรรมใหม่ ๆ เช่น การเขียนข้อความเกี่ยวกับการลดความอ้วน หรือชุดสวย ๆ ในสมัยก่อนที่เคยใส่ได้ เพื่อให้เห็นถึงเป้าหมาย และสามารถกระตุ้นหรือจูงใจให้มีความพยายามมากขึ้น และที่สำคัญ ที่สุด พยายามพักผ่อนให้มาก ๆ ไม่มีประโยชน์เลย ถ้ามีรูปร่างที่สวยงามอย่างที่ต้องการ แต่ต้องอาศัยอยู่ ในโรงพยาบาล เนื่องจากสุขภาพไม่ดี

Read More

4 สูตรทำหน้าใสได้ด้วยตัวเอง ''


1. สูตรเพิ่มความสดชื่นเปล่งปลั่งให้กับผิวหน้า ให้คุณล้างหน้าด้วยน้ำอุ่นจนสะอาด จากนั้นนำแอปเปิ้ลที่ยังไม่ปลอกเปลือกครึ่งผลมาปั่นพอละเอียด แล้วนำมาพอกหน้าเว้นเปลือกตา ทิ้งไว้ประมาณ 25 นาที แล้วล้างออก

2. สูตรลดริ้วรอย ทำให้หน้านวลใส
ให้นำแอปเปิ้ลครึ่งผลมาปั่นพอละเอียด จากนั้นก็มะนาวมาคั้นเอาแต่น้ำประมาณ 1 ช้อนชาใส่ลงไป แล้วผสมให้เข้ากัน จากนั้นนำมาพอกให้ทั่วหน้า เว้นบริเวณรอบดวงตาไว้ ทิ้งไว้ 10 นาที แล้วล้างออก

3. สูตรหน้าเด้ง ไม่หยาบกร้าน นำโยเกิร์ต 3 ช้อนโต๊ะมาผสมกับมะเขือเทศลูกเล็ก ๆ ประมาณ 3 ลูก ปั่นโยเกิร์ตกับมะเขือเทศพอละเอียด แล้วนำมาพอกหน้าให้ทั่ว โดยเว้นรอบดวงตา ทิ้งไว้ 15 นาที แล้วล้างออก

4. สูตรขัดหน้าขาว และลดริ้วรอยหมองคล้ำ นำโยเกิร์ต 1 ถ้วย แล้วผสมกับเกลือป่นละเอียด 1 ช้อนโต๊ะผสมให้เข้ากัน นำมาพอกให้ทั่วใบหน้า แล้วขัด ๆ ถู ๆ ให้ทั่ว ขัด 5 นาที ทิ้งไว้อีก 5 นาที แล้วล้างออก ทำเดือนละครั้งกำลังดี คล้ายๆ กับการสครับหน้านั่นเอง

Read More

10 วิธีนอนหลับให้สบาย ^^''


  1. เข้านอนก่อน 4 ทุ่ม และตื่น 6 โมงเช้า เพราะนี่คือช่วงที่เหมาะสมที่สุดในการพักผ่อนร่างกาย

  2. สะสาง วางแผนสิ่งที่กังวล ที่จะทำในวันต่อไปให้เรียบร้อย เพื่อลดอาการวิตกจริต และคิดซ้ำซาก

  3. บอกกับตัวเองว่าการเครียดกังวล และใช้สมองในช่วงที่ต้องนอนหลับนั้นเปล่าประโยชน์ นอนหลับให้สนิทแล้วตื่นมาคิดอย่างแจ่มใส ย่อมให้ผลลัพธ์ที่มีประสิทธิภาพดีกว่า

  4. ถ้าคุณนอนหลับยาก ควรออกกำลังกายในช่วงเย็น หรือ 4-6 ชั่วโมงก่อนนอน แต่อย่าทำใกล้เวลานอน

  5. ปรับอุณหภูมิห้องให้เย็นระหว่าง 17-25 องศาเซลเซียส แล้วจะหลับง่าย

  6. เสริมเครื่องฟอกอากาศในห้องนอนเพื่อเพิ่มปริมาณออกซิเจนที่สมดุล

  7. ความมืดมิดและไร้เสียง คือเคล็ดลับที่จะทำให้หลับได้สนิทและยาวนาน

  8. ดื่มหรือรับประทานอาหารที่มีองค์ประกอบของกรด อะมิโน Tryptophan จากโปรตีน อย่างธัญพืช หรือเครื่องดื่ม Whole Grains ก่อนนอน จะช่วยกระตุ้นให้ร่างกายปล่อยสาร Niacin จากวิตามินบี 5 ทำให้สมองและร่างกายผ่อนคลาย และง่วงนอนง่ายขึ้น

  9. สร้างกิจวัตรใหม่ด้วยการเข้านอนและตื่นให้เป็นเวลาเดียวกันทุกวัน ลองทำแค่ 1 อาทิตย์ ติดต่อกัน ร่างกายก็คุ้นเคยแล้ว

  10. หลีกเลี่ยงการดื่มชา กาแฟ และช็อกโกแลตระหว่างวัน เพราะกาเฟอีนที่ผสมอยู่จะทำให้ร่างกายตื่นตัว

Read More